บอกเล่าประสบการณ์ Backpack เชียงใหม่ - ดอยอ่างขาง - ดอยสุเทพ 3 วัน 2 คืน #งบ 3,000

08:42 Bombay 0 Comments

ดอยอ่างขาง
ปากทางเข้าดอยอ่างขาง


เนื่องจากว่าวันหยุดปีใหม่ได้มีโอกาส หยุดยาวเลยได้วางแผนเก็บเงินไปเที่ยว Backpack กับแฟน จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยแบบไม่มีวันลืมของผมครับ

ดอยอ่างขาง
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


โดยวางแผนไว้คราวๆ ประมาณนี้ครับ

คืนแรก พักที่ดอยอ่างขาง ว่าจะนอนเต็นกันครับ ที่ สถานีเกษตรอ่างขาง ซึ่งเต็นไม่สามารถจองล่วงหน้าได้ครับ ต้องไปจองด้วยตัวเองที่นั้นเลย

คืนสอง พักที่หอพักหลัง มหาลัยเชียงใหม่ครับ ชื่อ สิริทร วิลล่า ข้อมูลตรวจสอบตรงนี้ครับ http://sirithornvilla.com/

อันตัวผมเองนี้เรียนอยู่ขอนแก่นครับ ดังนั้นเริ่มเดินทางจาก ขอนแก่น ไปที่ เชียงใหม่ซิ โดยจะไปลงที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารอาเขต กันครับ

ดอยอ่างขาง
รถทัวเพรชประเสริฐ


  • เดินทางด้วย รถทัวเพรชประเสริฐ ครับเพราะ Feedback ค่อนข้างดีเรื่องการเดินทางและอุบัติเหตุ (ถามว่ากลัวขึ้นดอยไหมกลัวมากครับ หาหนังสือสวดมนตร์ ขึ้นไปสวดบนรถด้วยเลยนะ = ='')
  • แนะนำยาแก้เมารถสำหรับคนชอบเมารถแบบผมด้วยเพราะทางโค้งมาก
  • การเดินทางใช้เวลา ประมาณ 11 ชั่วโมงโดยประมาณ

เมื่อเดินทางถึง สถานีขนส่งผู้โดยสารอาเขต โอ้วว ผมคิดก่อนเลย สาวเหนือจะสวยๆ พูดเจ้าๆ น่ารักเต็มดอยเลยแน่ๆ คุยเพื่อนแฟนผมเลือกที่จะไป ปาย ส่วนผมกับแฟนเลือกที่จะไปดอยอ่างขาง กันสองคนครับ (ดูเด็ดเดี่ยวมาก) ซึ่งตอนแรกตกลงกันว่าจะเช่า มอเตอร์ไซต์เพื่อเดินทางไปดอยอ่างขาง แต่สุดท้ายก็เลือกไป รถบัสดีกว่า เพราะทางมันไกลมากและทางโค้งเหวเยอะ เลือกวิธีที่ เซฟๆ ปลอดภัย ดีกว่าเน๊อะ


หลังจากถึงอาเขตแล้ว ให้นั่งรถประจำทาง สีแดง (สังเกตง่ายมาก) ไปลงที่สถานีช้างเผือก และเมื่อถึงสถานีขนส่งช้างเผือกแล้ว ให้หารถบัสสีส้มๆ และขึ้นรถบัสต่อไปหน้าปากทางเข้าดอยอ่างขางครับ จะได้ แผนเป็นแบบนี้

สถานีขนส่งอาเขต -> สถานีขนส่งช้างเผือก -> ปากทางเข้าดอยอ่างขาง (วัดหาดสำราญ)

นั่งรถบัสมาจุดนี้ก็ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครับ นานมากๆ ผมนี้หลับเป็นสโนว์ไวท์ไปเลย
พอถึงหน้าทางเข้าดอยครับ ตอนแรกนึกว่าจะไม่ไกลนะ ดูป้าย 25 กม. ผมนี้อิ้งไปเลย ยังไม่ถึงอีก สาสสส

ดอยอ่างขาง
เดินขึ้นดอยไปด้วย โบกรถไปด้วย

เนื่องจากผมมากับแฟนกันสองคน คงไม่มีวิธีไหนนอกจาก โบกรถขึ้นดอย สิครับรออะไร แต่ทว่าได้พบกับเพื่อนร่วมทาง เพิ่มขึ้น 4 คนครับ เป็นเรื่องบังเอิญมาก ที่คน หาดใหญ่ กรุงเทพ ขอนแก่น จะได้รู้จักและร่วมทางไปด้วยกัน


และเราก็ตัดสินใจโบกรถขึ้นดอย ไปด้วยกันทั้ง 6 คนครับ (ตื่นเต้นมากไม่เคยทำมาก่อน ^3^)
รถ 10 คันจะจอดให้ 1 คันครับ ให้ตายสิพับผ่า ดีนะที่เอาแฟนมาด้วยค่อยมีคนพูดดีๆ อิๆ ซึ่งไปส่งได้ทีละนิด ทีละนิดครับ เพราะเขาไม่ขึ้นดอยกัน อยู่แถวตีนดอยกันทั้งนั้น

เริ่มขึ้นดอย ทางคดเคี้ยวมากครับ ทางโค้งหักศอก หักมุม ยิ่งกว่าหนังจีน (ก็ขึ้นเขาเน๊อะ) พอขึ้นมาได้สักพัก ก็เจอหมอกหนา มากกกกกก !!  ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอหมอกหนาขนาดนี้เลยครับ และ มองไม่เห็นรถยนตร์ข้างหน้าเลยทีเดียว คนที่นี้อาศัยใช้วิธีการ บีบแตร เพื่อเช็ครถเอา ซึ่งใจหวิวๆไปครับ กลัวว

ดอยอ่างขาง
ตลาดขายเครื่องแต่งกาย


อากาศหนาวขึ้นเรื่อยๆ แบบหนาวฮวบลงเลย ผมหยิบเสื้อมาใส่เพิ่มแทบไม่ทัน สุดท้ายก็ถึงครับ รถมาส่งที่หน้าทางเข้า โครงการหลวง ซึ่งค่าผ่านเข้าไปชม เสียเงินค่ารถ 50 บาท และคน คนละ 50 บาท ซึ่งผมกะจะเข้าพรุ่งนี้ เลยยังไม่เข้าครับ และหน้าทางเข้าโครงการหลวงไม่มีจุดกางเต้น ทำให้พวกผมต้องเดินกลับขึ้นเนินไปหาจุดกางเต้น ที่ สถานีเกษตรอ่างขาง



เมื่อถึงสถานีเกษตรอ่างขาง ก็เช่าเต็นครับ เต็น 300บาท (รวมเครื่องนอน มี 1 หมอน 1 ผ้าห่ม) เพื่ออะไรไม่รู้ เต้นสองคนจะมี ของนอนให้คนคนเดียว การเช่าเต็นคือต้องให้ไปดูเต็นก่อนครับ ว่ามีเต็นไหนว่างไหม และเราไม่ได้กางเต็นเองนะครับ เขาจะกางให้แล้วเราแค่ไปจองหาเต้นวิวสวยๆ เมื่อผมได้เต็นละก็เช่าเพิ่มเลยครับ มาหมด เสื่อ หมอน ผ้าห่ม

ดอยอ่างขาง
จุดกางเต็นท์สถานีเกษตรอ่างขาง


หลังจากได้เต็นแล้ว พวกผมก็ได้ลงเนินไป ตลาดหน้าทางเข้าโครงการหลวงครับ มันไกลจากที่พักมากเลยต้องโบกรถเข้าไปอีก

เมื่อถึงตลาดแล้ว ที่นี้ ดูไม่ต่างจากตลาดธรรมดา มีของขาย ของเล่น ผลไม้ ผมชอบบวบัวหิมะมากครับ อร่อยดี แต่ของที่นี้ค่อนข้างแพงมาก อาจจะมาจากการขนส่งขึ้นมาที่ดอยทำให้มันแพงมากแต่ละอย่างแทบไม่กล้าซื้อเลยครับ (คนขายน่ารักมากครับ )
ดอยอ่างขาง
ตลาดดอยอ่างขาง

เมื่อเดินตลาดเสร็จแล้วก็เหมารถ คนละ 25 บาทให้เขาไปส่งขึ้นที่จุดกางเต้น แล้วผมเลยคิดว่า เหมาเที่ยวและเหมาให้พาลงดอยดีไหม ไหนๆ ก็มาขนาดนี้ละ สุดท้ายต่อรองได้ 1500 ครับ แบ่งกันคนละ 250 บาท ถามว่าคุ้มไหม ไม่เท่าไหร่ แต่แลกกับความสบาย ก็ต้องยอมครับ อิๆ

ดอยอ่างขาง
ซื้อซาลาเปากับเด็กดอย


หลังจากถึงที่พัก อากาศหนาวมากประมาณ 5 องศาได้ และในช่วงเวลาที่ไปก็ อยู่ในช่วงชื้นมากซะด้วยหลังจากเข้าเต็นท์ได้ พวกผมก็หลับปุ๋ยกันเลยครับ ตื่นมาอีกทีก็ ตี 1 ครึ่ง หลังจากตื่นมา แล้วรู้เลยครับ ขั้วโลกเหนือนั้น มันไม่น่าอยู่เลย หนาวมากกกก !! เต็นท์เต็มไปด้วยน้ำค้างเต็มขอบเต็นท์ ผ้าห่มนี้ยังเย็นเลยครับ กี่องศาไม่รู้ แต่รู้แต่ว่าหนาวมาก แฟนผมนี้เอาซะนอนไม่หลับเลย แล้วหลับไปตอนไหนไม่รู้

ตื่นมาตอน 6 โมงเช้า ประมาณ 10 นาทีได้ พี่ๆเพื่อนร่วมทางได้มาปลุกครับ เหมารถไว้ ได้เวลาออกเที่ยวกันแล้ว

เมื่อล้อหมุนการเดินทาง ท่องเที่ยวดอยอ่างขาง อย่างเต็มที่ ก็เริ่มขึ้น !!
รถพาไปจุดแรกครับ ชื่อ "จุดชมวิวดอยอ่างขาง"
จุดนี้เป็นจุดที่ นักท่องเที่ยวจะมาชมทะเลหมอกกันครับ เพราะช่วงที่ผมมาเสียดายมาก ฝนตก หมอกหนา ทำให้ เมฆหมอก บังพระอาทิตย์ มองไม่เห็นเลยครับ ทุกที่เต็มไปด้วยหมอก ชมจากภาพดูครับ

ดอยอ่างขาง
จุดชมวิวดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ร้านขายกาแฟร้อน


หลังจากเที่ยวชมเสร็จจุดแรก ไปชมจุดที่สองต่อมาครับ เป็นหมู่บ้านชาวดอย ที่ปลูกไร่สตอเบรี่ครับ ผมนี้ตั้งหน้า ตั้งตารอ เที่ยงสวนสตอเบรี่ มาตั้งแต่อยู่ขอนแก่น แต่พบว่า ทางเต็มไปด้วยดินและโคลน ทำให้ไม่สามารถเข้าไปในไร่สตอเบอรี่ได้ สรุปว่า อดครับ อดเห็น TT เสียใจมากก แต่ได้ซื้อสตอเบอรี่ จากชาวดอยไว้ครับ กล่องละ 200 บาท คัดลูกใหญ่เน้นๆ อิๆ ลืมบอกสตอเบอรี่เป็น พันธุ์ 80 นะครับ เปรี้ยวหวาน แซบมากขอบอก

ดอยอ่างขาง
หมู่บ้านเกษตรไร่สตอเบอรี่


พอเที่ยวจุดที่สองเสร็จ ล้อหมุนอีกครั้ง ครั้งนี้รถพาไปเที่ยวที่ชายแดน ไทย-พม่าครับ นั่งรถไป ข้างทางก็เต็มไปด้วยร้านขายของพม่า เต็มไปหมด ตื่นเต้นมากเลยครับ รถจอดลงที่ค่ายทหาร อีกฝังจะเป็นชายแดนพม่า แต่ทว่า เต็มไปด้วยหมอกมองอะไรไม่เห็นเลยครับ เสียใจอีกแล้วว มาช่วงนี้ไม่ฟินเลยย

ดอยอ่างขาง
ต่อคิวซื้อสเตอเบอรี่


ชมวิวเสร็จแล้ว (มีแต่หมอก) รถก็เคลื่อนที่อีกครั้งไปที่ปากทางเข้าโครงการหลวง พวกเราพักกินข้าวกันครับ หนาวมากกก ประมาณ 9 องศา ผมก็สงสัยเหมือนกันชาวดอยเขาอยู่ได้ยังไง แต่เขาคงชินกับอากาศแบบนี้อยู่แล้วมั้ง ชาวดอยน่ารักมากครับ แก้มแดงๆ น่ารัก

เพลิดเพลินกับการเดินตลาดเสร็จกินข้าวเสร็จ ก็ได้เวลาเข้าโครงการหลวงละครับ ซึ่งตามนั้นครับ ค่าเข้า คนละ 50 บาท ค่ารถอีก 50 บาท

เมื่อเข้าไปแล้ว พบกับสวนดอกไม้ สวยมากครับ โดยเฉพาะ พญาเสื้อโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยนั้นเอง สวยมากครับ และหนาวมากด้วย บรรยากาศฟินนไปอีกแบบครับ ถ่ายรูปกัน ทั้งวันยังไม่หมดเลยที่นี้

ดอยอ่างขาง
สวน80

ดอยอ่างขาง
พญาเสือโคร่ง

สวนกะหล่ำปลี


และอยากให้ชมอีกที่นึงคือ สวนต้นบ๋วย สวยมากครับ บรรยายเป็นภาพถ่ายละกัน

ดอยอ่างขาง
สวนดอกไม้ ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ค่ายทหาร ไทย-พม่า


ดอยอ่างขาง
สวนดอกไม้ ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ต้นบ๋วย




ปิดท้ายด้วยเข้าชมสินค้าของโครงการหลวง ครับ มีเยอะแยะมากมายครับ ของดอยคำเป็นต้น อิๆ
ดอยอ่างขาง
ผลิตภัณฑ์ดอยคำ

จบการเที่ยวชมอยู่ดอยอ่างขางแล้วครับ หมดเวลาสนุกแล้ว รถไปส่งที่ปากทางเข้าดอย รู้สึกว่าผ่านอะไรมาเยอะครับ แต่เวลานั้นผ่านไปแค่วันเดียวเอง สนุกมากและ พี่ๆเพื่อนร่วมทางก็ด้วย พี่น่ารักมากครับ

ดอยอ่างขาง
ลงจากดอยละครับ


หลังจากนั้นนั่งรถโดยสารกลับไปที่สถานีขนส่งช้างเผือกและ บอกลากัน เพราะต้องแยกย้ายกันไปเที่ยวต่อ ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกหรือป่าว แต่เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ขอบคุณสำหรับความทรงจำดีๆนะครับ

หลังจากแยกย้ายกันแล้วพวกผม นั่งรถแดงกลับสถานีขนส่ง อาเขตต่อครับ คราวนี้ จะเที่ยวในเมืองเชียงใหม่ครับ โดยเช่ามอเตอร์ไซต์ วันละ 200 บาทครับ น้ำมันต้องขับไปเติมที่ปั้มเองครับใกล้ๆ ไม่มีประสบการณ์เรื่องเส้นทางครับ ใช้ GPS ในการนำทางทั้งหมดครับ Google map

ดอยอ่างขาง
เช่ามอไซต์แว๊นเมืองเชียงใหม่


อันดับแรกเดินทางไปที่พัก หลังมหาลัยเชียงใหม่ครับ หอสิริธร คืนละ 390 บาท ราคาก็โอครับ พี่พักอยู่หลังมหาลัยเชียงใหม่นิ ชอบใจเลยครับ อยากลองมา มหาลัยอื่นบ้าง ฮ่าๆ

หลังจากมาถึงแล้ว ก็ลุยกันต่อเลยครับ ลุยถนนคนเดิน เชียงใหม่ที่เขาว่ายาวมาก ลุยเลยครับ ใครอยากไปไวๆ แนะนำให้ GPS นำทางไปพิกัดของโรงแรม Hotel M นะครัชช
ดอยอ่างขาง
ถนนคนเดินเชียงใหม่

ดอยอ่างขาง
ถนนคนเดินเชียงใหม่

เดินไปเรื่อยๆ ตกใจมากครับ ยาวมว๊ากกก เดินไม่ไหวครับ ได้กลับมานอนอย่างสบายในคืนนี้

ตื่นเช้ามาอีกวันนึงพวกผมตั้งใจกันว่าจะไปเที่ยวดอยสุเทพกันครับ ไปด้วย มอเตอร์ไซต์นี้แหละ ฟังดูผจญภัยดีนะครับ แหม๊ ไม่รู้เรื่องเส้นทางเหมือนเดิมครับ ใช้ Google map ในการนำทางเป็นทางหลัก การขี่มอไซต์ขึ้นเขาไปด้วยกันกับแฟน ตื่นเต้นมากครับ ใครคิดจะทำแบบผม ต้องมีสกิลขับรถดีระดับนึงหน่อยนะครับ ระมัดระวังด้วย ขับไปประมาณ 15 นาทีก็ถึงครับ ระหว่างทางมีจุดชมวิวต่างๆ สวยมากครับ

ดอยอ่างขาง
ทางขึ้นดอยสุเทพ

ดอยอ่างขาง
ดอยสุเทพ


หลังจากเที่ยวดอยสุเทพเสร็จก็ ลงดอยมาเที่ยวมหาลัยเชียงใหม่อีกทีครับ สวยมากเป็นมหาลัยที่เห็นภูเขาด้วย ตอนเรียนไป เหม่อมองภูเขาไปคงฟินไม่น้อย 555

เมื่อเที่ยวเสร็จก็หมด ภารกิจที่เชียงใหม่แล้ว ได้เวลากลับขอนแก่นกันแล้วครับ พวกผมเอารถไปคืนที่ร้าน แล้วต้องเหมา รถแดงไปสนามบิน 300 บาท พอถึงสนามบิน ปรากฏว่า ตกเครื่องครับ จิตตกกันไปหมดเลยแต่ไม่เป็นไร ยังมีรถทัวครับ กลับรถทัวก็ได้ (TT น้ำตาไหล) เสียค่าตั๋วไป 990 บาทครับ เหมือนเอาเงินไปโยนทิ้งเลย จำไว้จนวันตายครับ เคสนี้

หลังจากนั้นก็เหมารถแดงกลับมาสถานีขนส่งอาเขต 200 บาท (ต่อเอาครับ 55) แล้วซื้อตั๋วรถทัวขอนแก่น - เชียงใหม่ 611 บาท แล้วนั่งรถกลับมา ขอนแก่นอย่างอมทุกข์เรื่องเงินเล็กน้อย TT

จบแล้วครับ บอกเล่าประสบการณ์ หลายๆ คนถามมาเรื่องค่ากินอยู่ผมกินยังไง อยู่บนดอยผมก็กินปกติครับ มื้อละ 40 - 60 บาท ข้าวกับขนม ใช้ไม่เยอะครับอยู่ที่เราจะประหยัดได้แค่ไหน ของฝากเพื่อนก็เน่าหมดครับสตอเบรี่ เอาแช่เย็นไม่ทัน เสียดาย TT ขอบคุณที่สละเวลาอ่านนะครับ ไปละฟิ้วว !!

สรุปเงินที่ใช้ (ตัดค่าโง่ออก)
รถทัว ทั้งไปกลับ ขอนแก่น-เชียงใหม่  (เครื่องบินแล้วแต่โปรนะครับ) 611 + 611 = 1222 บาท
รถขึ้นที่ สถานีขนส่ง 3 ขอนแก่น ลงที่ สถานีขนส่งอาเขต เชียงใหม่
ค่ารถแดงไป สถานีขนส่งช้างเผือก 40 บาท
ค่ารถบัสไป ปากทางเข้าดอยอ่างขาง 75 บาท
ค่าเต็นท์ 300 เช่าเพิ่ม หมอน 20 เสื่อ 20 ผ้าห่ม 60 = 400 บาท
ค่าเหมารถ ไปเที่ยว ลงดอยอ่างขางด้วย คนละ 250 บาท (จาก 1500 บาท หาร 6 คน)
ค่ารถบัสกลับสถานีขนส่งช้างเผือก 75 บาท
ค่ารถแดงกลับสถานีขนส่งอาเขต 20 บาท (เหมาครั้งแรกโดนชาตครับ TT)
ค่าเช่ารถมอไซต์ 200 บาท เติมน้ำมัน 100 บาท (แนะนำ 50 บาทครับ)
ค่าที่พัก 390 บาท
รวมเป็นเงิน 2182 บาท ที่เหลือเป็นค่าอาหาร ขนม นมเนย อันนี้แนะนำแบบประหยัดเด้อ

ลืมบอกกล้องที่ใช้ถ่ายคือ Asus Zenfone 6 ครับ

ครั้งหน้าจะไปลงทะเลกันละครับ โปรดติดตามชม *~( ̄▽ ̄)~*





0 ความคิดเห็น: