ภาษา Java แบบเบๆ [Basic Java Programming]

11:01 Bombay 1 Comments

สวัสดีครับ วันนี้เกิดอารมณ์อยากเขียนสอน เขียนโปรแกรมภาษา Java ขึ้นมา มาเริ่มกันเลยดีกว่า


เตรียมโปรแกรมให้พร้อม

ก่อนเริ่มเขียนโปรแกรมก็ต้องมี โปรแกรมช่วยเขียน กับ รันโค๊ดใช่ไหมครับ
โหลดสองตัวนี้ก่อนนะครับ





- ถ้าไม่ลงเครื่องก็ไม่รู้จักภาษาจาว่าครับ ดังนั้งต้องลงไว้ครับ



Eclipse IDE for Java EE Developers
- โปรแกรมนี้จะช่วยเรื่องในการเขียนภาษาจาว่าให้เข้าใจง่ายขึ้นครับ
ถ้าไม่ลง Java SE Development Kit (JDK) ก็จะรันโค๊ดไม่ได้ครับ





======================================================

สำหรับผู้ที่เริ่มใช้โปรแกรม Eclipse นะครับ

การสร้างไฟล์ขึ้นมาเพื่อเขียนโค๊ด


สร้างโปรเจ๊คขึ้นก่อนนะครับ ส่วนนี้เป็นส่วนเก็บโค๊ด ไม่ได้เป็นส่วนเขียนโค๊ดนะครับ


======================================================



จะได้แบบนี้นะครับกด Finish เลย

======================================================

ได้เป็บแบบภาพบนครับผม ^^

======================================================


ต่อมาจะเป็นการสร้าง class นะครับ ตรงนี้เป็นส่วนที่เราใช้เขียนโค๊ดกันแล้ว

======================================================



Set ให้ได้ตามนี้นะครับ โอเค๊  (ติ๊กตรง public static void ด้วย)
======================================================


จะปรากฏหน้าโค๊ดขึ้นมาถือว่า สำเร็จแล้วครับ 
======================================================

คราวนี้ลองเขียนโค๊ด ให้แสดงข้อความออกทางหน้าจอว่า Hello world ดูนะครับ
======================================================

 เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วก็ลองกด ให้รันโค๊ดดูครับ

ถ้าโค๊ดถูกต้องจะปรากฏข้อความ hello world ขึ้นมาทางส่วนล่างของหน้าจอนะครับ
======================================================

ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง สู้ๆ


======================================================

ทำความรู้จักกับชนิดข้อมูล และ คำสั่งเบื้องต้น

ชนิดของข้อมูล เบื้องต้นที่เราจะนำไปไว้ประกาศตัวแปร ว่าจะเป็นชนิดใดนะครับ
  • int   คือ ชนิดตัวเลข เช่น 1,2,3,4
  • double คือ ตัวเลขทศนิยม 0.1 , 0.2
  • char  คือ ตัวอักษร ตัวเดียวเท่านั้น a , b , c
  • string คือ ตัวอักษรที่เรียงกันเป็นประโยค เช่น hello

คำสั่งเบื้องต้น

system.out.print("ใส่ข้อความตรงนี้")   คือ คำสั่งแสดงข้อความ
system.out.println("ใส่ข้อความตรงนี้") คือ คำสั่งแสดงข้อความและขึ้นบรรทัดใหม่

การประกาศตัวแปร

เป็นการประกาศว่าตัวแปรนี้ชนิดเป็นชนิดใด ทำอะไรกับตัวนี้อะครับ

การเรียกใช้ตัวแปรกับคำสั่ง

ก็เรียกตรงตัวไปเลยครับ
ผลรันคือแบบนี้ครับ

การรับค่าตัวแปรผ่านทางแป้นพิมพ์

คือการที่เราใส่ค่าตัวแปรให้โค๊ดของเราเพื่อให้เราสามารถกำหนดค่าได้เอง
  • อันดับแรกเราต้องเพิ่มโค๊ด import java.util.*; บนหัวสุดของเพื่อเรียกใช้ scanner
  • ประกาศตัวรับค่า(Scanner) ในโค๊ดชื่อ sc
  • คำสั่งที่ให้รับค่าเบื้องต้นผม ขอสอนแค่ สองคำสั่งคือ
  • ชื่อตัวสแกน.nextLine();  คือ รับค่าจากแป้นพิมพ์ทั้งหมดที่พิมพ์
  • ชื่อตัวสแกน.next();  คือ รับค่าจากแป้นพิมพ์จนถึงช่วงวรรค (spacebar)



ผลรัน


======================================================

เงื่อนไขและการวนลูป

จะเริ่มจากไหนดี เอาจาก ง่ายๆก่อนละกันนะ if คำสั่งเป็นแบบนี้


if(เงื่อนไข){ให้ทำอะไร?}




จากโค๊ดกำหนดว่า ถ้า a มากกว่า 0 ให้ทำการ แสดงค่า This is a > 0 ทางหน้าจอ

เนื่องจาก a = 1 ดังนั้นเข้าเงื่อนไข if จึงแสดงค่าออกมาก


if แบบซ้อน


if(ใส่เงื่อนไข){ให้ทำอะไร} //ส่วนนี้ถ้าเงื่อนไขตรงกันให้ทส่วนนี้
else if(ใส่เงื่อนไข){ให้ทำอะไร} // ถ้าไม่ตรงกับอันแรกให้ทำส่วนนี้
else {ให้ทำอะไร} //ถ้าไม่ตรงกับใครเลยให้ทำส่วนนี้
ตัวอย่างนะ

ผลรัน



ข้อสังเกตนะครับ 
  • ในการเขียนแบบเงื่อนไข ถ้าจะให้ตัวแปรไหนมีค่าเท่าใดต้องใช้ == เพราะถ้าใช้ = มันเป็นการใส่ค่าให้ให้ตัวแปรครับ
======================================================

SWITCH

คำสั่งนี้เป็นคำสั่งเลือกทำครับ เหมือน if แต่ใช้ในการเลือกที่มากกว่า if 
switch () {
case 1 : ให้ทำอะไร ;break; //ถ้า ค่าที่เข้ามาเป็น 1 ให้ทำส่วนนี้
case 2 : ให้ทำอะไร ;break; //ถ้า ค่าที่เข้ามาเป็น 2 ให้ทำส่วนนี้
case 3 : ให้ทำอะไร ;break; //ถ้า ค่าที่เข้ามาเป็น 3 ให้ทำส่วนนี้
case 4 : ให้ทำอะไร ;break; //ถ้า ค่าที่เข้ามาเป็น 4 ให้ทำส่วนนี้
default: ให้ทำอะไร break; //ถ้าไม่ตรงกับส่วนใดเลยให้ทำส่วนนี้
}

ตัวอย่างนะครับ
ข้อสังเกต
  • ห้ามลืม break; นะครับ ^^ ไม่งั้นจะมันทำงานทุก case เลย 
======================================================

While

เป็นคำสั่งให้วน จนกว่าจะออกจากเงื่อนไข อาจจะงงลองดูโค๊ดก่อนนะ

While (กำนหนดเงื่อนไข ถ้าตรงเงื่อนไขจะวนลูป) {คำสั่งการทำงาน}

ตัวอย่างครับ

ผลรันนิถือว่าไปรันกันดูนะครับ จะได้เข้าใจ ^^

ข้อสังเกต
  • a = a +1; เป็นหัวใจหลักของการทำงานครับ ที่จะทำให้มันหลุดออกจาก ลูป จะเป็นประมาณว่า a =9 อยู่แล้วจะเป็น 1 + 1 = 2 ทำให้ a ครั้งต่อไป  = 2 มันก็ทำงานต่อไปเรื่อยๆครับจน ถึง 10 มันก็หลุดจากลูปแล้ว

======================================================

do..while 

คำสั่งนี้ เราจะไม่รู้ค่าอันดับแรกครับ เราค่อยไปใส่ค่าทีหลังใน โค๊ดคำสั่ง

do{
คำสั่งให้ทำอะไร อย่างไร

}while(เงื่อนไขออกจากลูป)

ตัวอย่างครับ

======================================================

For

คำสั่งนี้ต้องรู้ว่า เราจะวนกี่รอบและกำหนดตายตัวไว้แล้ว

for(กำหนดตัวแปร;กำหนดเงื่อนไขลูป;แล้วค่าใดจะเพิ่มหรือลด;)

ตัวอย่างครับ 

======================================================

Array (อาเรย์)

อาเรย์คือการสร้าง ตัวแปรชนิดหนึ่งให้เก็บค่าได้หลายค่า และเรียงกันเป็นช่องๆ
สมมติให้ อาเรย์ int A มี 5 ช่องใส่ค่าให้เก็บตัวแปร 1 2 3 4 5 6

ข้อสังเกตคือ ตัวแปรที่บอกจำนวนช่อง ต้องเริ่มจาก 0 ก่อน
กาประกาศการใช้งาน

ถ้าไม่ทราบขนาดมาก่อน

ชนิดข้อมูล[] ชื่ออาเรย์;
หรือ 
ชนิดข้อมูล ชื่ออาเรย์[];

ถ้าทราบขนาดมาแล้ว

ชนิดข้อมูล[] ชื่ออาเรย์ = new ชนิดข้อมูล[ขนาด];
หรือ
ชนิดข้อมูล ชื่ออาเรย์[] = new ชนิดข้อมูล[ขนาด];

ตัวอย่าง

 คำสั่งน่ารู้
length เป็นคำสั่งที่ใช้นับจำนวนนั้นเอง ในที่นี้จะใช้ในการนับช่องอาเรย์ครับ
ตัวอย่างวิธีใช้









ผลรันนะครับ





String

คือ สายอักขระ โดยอธิบายคราวๆนะ อักขระ คือ อักษรตัวเดียว ต้องอยู่ในเครื่องหมาย''เช่น 'a' , 'b'
แต่สายอักขระต้องอยู่ใน เครื่องหมาย "" เท่านั้นเช่น "สายอักขระ"
เช่น 
String message = "Hello world"


คำสั่ง String ที่ผมใช้บ่อยนะครับผมรวมมาให้แล้ว

ตัวแปล
หน้าที่
ตัวอย่าง
 length();
นับความยาวของอักขระ
String a = “Mind2bombay”;
int len = a.length();
 trim();
ตัดช่องว่างทางซ้ายสุด และขวาสุดของ String
String a = “Mind2bombay”;
a = a.trim();
 toUpperCase();
ทำให้ตัวหนังสือเป็นพิมพ์ใหญ่
String a = “Mind2bombay”;
a = a.toUpperCase();
 toLowerCase();
ทำให้ตัวหนังสือเป็นพิมพ์เล็ก
String a = “Mind2bombay”;
a = a.toLowerCase();
 substring(int i , int j);
การตัด String ออกมาโดย
i = จุดเริ่มตัด
j = เป็นจุดก่อนถึงจุดนี้ (จะตัดถึงจุด j-1)
String a = “Mind2bombay”;
String a1 = a.substring(0,5);
 substring(int i);
ตัด String ตั้งแต่จุดที่ i
String a = “Mind2bombay”;
String a1 = a.substring(1);

 split(String);
การแบ่ง String ออกเป็นสองส่วนโดยต้อง
สร้างอาเรย์สองช่องด้วย
String a = “Mind2bombay”;
String a2[] = new String[2]
a2 = a. a.split(2);
 replace(String s1,String s2);
การแทนค่า String โดย
s1 =  String ที่ต้องแทนที่
s2 =  String ค่าที่จะแทนที่ไป
String a = “Mind2bombay”;
a = a.replace(“Mind”,“555”);
 charAt(int i)
คำสั่ง เลือก String ตามตำแหน่งออกมากตัวเดียว
String a = “Mind2bombay”;
a = a.charAt(1); //i เพราะ M คือตัว(0)
 indexOf(String s);
หาตำแหน่งของ String และคืนค่ามาเป็นเลขตำแหน่งของ String นั้นๆ
String a = “Mind2bombay”;
a = a.indexOf(“i”); // 1
 lastindexOf(String s);
หาตำแหน่งของ String และคืนค่ามาเป็นเลขตำแหน่งของ String นั้นๆ (หาจากตัวสุดท้ายก่อน)
String a = “Mind2bombay”;
a = a.indexOf(“i”); // 1
 s1.concat(s2);
การนำ String มาต่อกัน
String a = “Mind”;
String b = “2bombay”;
String c = a.contcat(b);

 s1.equals(s2);
การนำค่า Stringมาเทียบกันว่าเหมือนกันทุกตัวไหม
String a = “Mind2bombay”;
String b = “mind2bombay”;
boolean c = a.equals(b);

 s1.equalsIgnoreCase(s2);
การนำค่า Stringมาเทียบกันว่าเหมือนกันทุกตัวไหม แต่อันนี้จะไม่สนตัวพิมพ์ใหญ่พิพิมพ์เล็ก
String a = “Mind2bombay”;
String b = “mind2bombay”;
boolean c = a.equalsIgnoreCase(b);
 startWith(String s);
เป็น การตรวจสอบว่า String นี้เริ่มต้นด้วยค่า อะไร คืนค่าเป็น boolean
String a = “Mind2bombay”;
boolean b = a.startWith(“Mind”);
 endWith(String s);
เป็นการตรวจสอบว่า String นี้ลงท้ายด้วยค่าอะไร คืนค่าเป็น boolean
String a = “Mind2bombay”;
boolean b = a.startWith(“bay”);
 toCharArray();
เปลี่ยน String ให้เป็น char ทีละตัวลงใน array นั้น
String a = “Mind2Bombay”;
char[] b = a.toCharArray();
System.out.println(“b[0]”);
Integer.parseInt(String i );
เปลี่ยน String ที่เป็นตัวเลข ให้เป็นชนิด int
String a = “100”;
int b = Integer.parseInt(a);
Double.parseDouble(String a);
เปลี่ยน String ที่เป็นตัวเลข ให้เป็นชนิด double
String a = “100.00”;
int b = Integer.parseInt(a);
Character.isDigit(char);
จะ รีเทินค่ากลับมาเป็น True ถ้าตัว char ที่ส่งมาเป็น ตัวเลข ถ้าไม่ใช่จะส่ง False มาครับ
String a = “B2”
boolean b = Character.isDigit(a);


เดี๊ยวมาต่อครับ


1 ความคิดเห็น:

About me

20:39 Bombay 0 Comments

แนะนำตัวครับ


ชื่อ: บอมเบย์
เรียน :วิทยาการคอมพิวเตอร์ 
อยู่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ฮิ้ววววว !!

0 ความคิดเห็น: